พญามุจรินทร์นาคราช

 


พญามุจรินทร์นาคราช

วรกายเป็นสีเทาฮินดู ปล้องพระนาภีสีเงินยวง พระเศียรเป็นสีทอง

ครั้นล่วง ๗ วันแล้ว เสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิยังร่มไม้จิก อันมีนามว่า มุจลินท์อันตั้งอยู่ในทิศบูรพาหรือทิศอาคเนย์แห่งไม้มหาโพธิ์ เสวยวิมุติสุขอยู่ ณ ที่นั้นอีก ๗ วัน

ในกาลนั้นฝนตกพรำตลอด ๗ วัน พญานาคมีนามว่า มุจลินท์นาคราชหรือ พญาโกณจามีอานุภาพมาก อยู่ที่สระโบกขรณีใกล้ต้นมุจลินท์พฤกษ์นั้น มีความเลื่อมใสในพระศิริวิลาศ พร้อมด้วยพระรัศมีโอภาสอันงามล่วงล้ำเทพยดาทั้งหลาย จึงเข้าไปใกล้แล้วขดเข้าซึ่งขนดกาย แวดวงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ๗ รอบ และแผ่พังพานอันใหญ่ ป้องปกเบื้องบนพระเศียร มิให้ลมและฝนถูกต้องพระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า

ครั้งล่วง ๗ วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมานพ เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากความกำหนัด คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ คือความถือตัวออกให้หมดไปเป็นสุขอย่างยิ่ง

พญามุจลินทร์ทรงถือครองพรหมจรรย์บำเพ็ญพรต ทรงหลุดพ้นภูมินาคะ หรือ ภูมิดิรัจฉาน จุติเป็นเทพนาคราชชั้นพรหม และด้วยอานิสงค์ที่มีมาอยู่ก่อนแล้วทรงบรรลุเป็นพระอนาคามีอยู่ในชั้นพรหมนั้นสืบมาทรงครองพรหมจรรย์ ไม่มีชายา

ประวัติท่านเจ้าปู่มุจลินทร์ได้มีกล่าวไว้ร่วมกับท่านเจ้าปู่สุภัทรเมโธไว้ดังนี้ว่า องค์พ่อปู่สุภัทรเมโธ มีอาวุโสเดียวกับพญามุจลินทร์นาคราช เป็รพญานาคราชพระสหมิตร ร่วมสร้างบารมีกับท่านพ่อมุจลินทร์ มาตั้งแต่ครั้งพระพุทธเจ้าสิขี มีพระนาม กีฬะตัสโสพรหม ท่านพ่อมุจลินทร์ มีพระนาม คุณะพรหม เมื่อครั้ง พระพุทธเจ้าสิขีตรัสรู้ มีพญานาคพระนาม วิฬุมัณโฑนาค ขึ้นปรกพระเศียรพระพุทธเจ้าสิขี คุณะพรหม (ท่านพ่อมุจลินทร์) รู้วาระ บารมีพรหมแห่งตนกำลังจะหมดลง เกิดแรงปีติศรัทธาเมื่อได้เห็น วิฬุมัณโฑนาค ปรกพระเศียรพระบรมศาสดา จึงกำหนดจิตอธิษฐานว่า ในสมัยพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งขอตนได้เป็นต้นแห่งปางนาคปรก ได้ขึ้นแผ่ ปกป้องพระศาสดา ก่อนตนหมดวาระจึงเข้าเฝ้าพระสิขีพุทธเจ้า ทรงล่วงรู้ปรารถนา จึงทรงตรัสพยากรณ์องค์คุณะพรหมว่า ในสมัยพระพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ท่านจะบังเกิดเป็นโอปาฏิกะนาคราช เกิดกำเนิดจากแรงเปล่งวาจา ท้าวสักกนาคราช ผ่านกำเนิดโดยมีพระฤษีมุณีเป็นบิดา และจะบำเพ็ญพรหมจรรย์ คือ อยู่ครองพรหมจรรย์อยู่ที่สระมุจลินทร์ รอขึ้นแผ่พระเศียรปกพระพุทธเจ้าสมณโคดม (การจะบำเพ็ญมาเป็นนาคราชขึ้นปรกพระเศียรพระพุทธเจ้า จะต้องไม่เป็นนาคราชที่เคยเสพสังวาส) ส่วนกีฬะตัสโสพรหมผู้เป็นสหมิตรร่วมตั้งสัจจะอธิษฐาน ก็ได้ปรารถนาจะได้เป็นเทพนาคราช ผู้รองรับคนดียามพลิกโลก เพื่อคุ้มครองลูกของพระศาสดาหรือวิปัสสนาวงค์ทุกๆ คน ปู่สุภัทรเมโธนาคราชจึงจะออกมายามวิกฤตเท่านั้น






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น